การติดต่อสื่อสารทางอินเตอร์เน็ต
ความหมายของคำว่า
อินเตอร์เน็ต
อินเทอร์เน็ต
(Internet) มาจากคำว่า Inter Connection Network
เป็นระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่ ที่เครื่องคอมพิวเตอร์ทุกๆ เครื่องทั่วโลก
สามารถติดต่อสื่อสารถึงกันได้ ภายในระบบอินเทอร์เน็ตจะมีเว็บไซต์ต่างๆ
เป็นจำนวนมาก
การเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต
การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตสามารถทำได้หลายวิธี
แต่จะยกตัวอย่างเฉพาะวิธีที่พบเห็นในการเชื่อมอินเทอร์เน็ตตามที่พักอาศัย
การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตแบบหมุนเบอร์โทรศัพท์ (Dial - up) นั้น จะต้องมีอุปกรณ์ที่จำเป็นพื้นฐานดังนี้
การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตแบบหมุนเบอร์โทรศัพท์ (Dial - up) นั้น จะต้องมีอุปกรณ์ที่จำเป็นพื้นฐานดังนี้
1. | คอมพิวเตอร์ที่มีคุณสมบัติเหมาะสม สามารถนำมาเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้ |
1.คอมพิวเตอร์ที่มีคุณสมบัติเหมาะสม
สามารถนำมาเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้
2.โมเด็ม
3.ชั่วโมงอินเทอร์เน็ต
4.สายโทรศัพท์และขณะต่ออินเทอร์เน็ตจะไม่สามารถใช้งานเบอร์โทรศัพท์ได้
1 เบอร์
ถ้าเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตด้วยวิธีนี้
ผู้ใช้งานจะต้องปฏิบัติตามคำอธิบายของชั่วโมงอินเทอร์เน็ตที่ซื้อมา
|
ถ้าเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตด้วยวิธีนี้
ผู้ใช้งานจะต้องปฏิบัติตามคำอธิบายของชั่วโมงอินเทอร์เน็ตที่ซื้อมา
|
หากเป็นอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง
จะต้องมีอุปกรณ์ที่จำเป็นพื้นฐานดังนี้
1.คอมพิวเตอร์ที่มีคุณสมบัติเหมาะสม
สามารถนำมาเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้
2.โมเด็ม
3.อุปกรณ์เสริมของอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง
4.สายโทรศัพท์
แต่ขณะต่ออินเทอร์เน็ตก็ยังสามารถใช้งานโทรศัพท์ได้
การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตด้วยวิธีนี้
ส่วนใหญ่จะทำการเชื่อมต่ออุปกรณ์ด้วยกันตลอดเวลาอยู่แล้ว เพียงแค่เปิดคอมพิวเตอร์
ก็สามารถใช้งานอินเทอร์เน็ตได้ทันที
|
แต่ในปัจจุบัน หลายหน่วยงาน เช่น บริษัท หรือ โรงเรียน ได้มีการเชื่อมต่อระบบอินเทอร์เน็ตให้บุคลากรสามารถใช้งานได้ตลอดเวลา เพื่อให้สะดวกในการทำงานมากยิ่งขึ้น ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง
รูปแบบของการติดต่อสื่อสารบนอินเตอร์เน็ต
1.
จดหมายอิเลคทรอนิกส์ (Electronic Mail) จดหมายอิเลคทรอนิกส์หรือที่เรียกกันว่า
E-mail เป็นการสื่อสารที่นิยมใช้กันมาก
เนื่องจากผู้ใช้สามารถติดต่อสื่อสารกับบุคคลที่ต้องการได้รวดเร็ว
ภายในระยะเวลาอันสั้น
ไม่ว่าจะอยู่ในที่ทำงานเดียวกันหรืออยู่ห่างกันคนละมุมโลกก็ตาม
นอกจากนี้ยังสิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายน้อยมาก2. การสืบค้นข้อมูลแบบเครือข่ายใยแมงมุม (Wold Wide Web : WWW) เป็นการสื่อสารที่เติบโตเร็วที่สุดในอินเตอร์เน็ต ด้วยเหตุผลที่สำคัญคือง่ายต่อการใช้งานและสามารถนำเสนอข้อมูลกราฟฟิคได้ การใช้ World Wide Web เปรียบเสมือนการเข้าไปอ่านหนังสือในห้องสมุด โดยหนังสือที่มีให้อ่านจะสมบูรณ์มากกว่าหนังสือทั่วไป เพราะสามารถฟังเสียงและดูภาพเคลื่อนไหวประกอบได้ นอกจากนี้ยังสามารถโต้ตอบกับผู้อ่านได้ด้วย ลักษณะเด่นอีกประการหนึ่งคือข้อมูลต่าง ๆ จะมีการเชื่อมโยงถึงกันได้ด้วยคุณสมบัติของ HyperText Link
3.การโอนย้ายข้อมูล (File Transfer Protocol : FTP) การโอนย้ายข้อมูล หรือที่นิยมเรียกกันว่า FTP เป็นการสื่อสารอีกรูปแบบหนึ่งที่ใช้กันมากพอสมควรในอินเตอร์เน็ต โดยอาจใช้เพื่อการถ่ายโอนข้อมูลรวมถึงโปรแกรมต่าง ๆ ทั้งที่เป็น freeware shareware จากแหล่งข้อมูลทั้งหลายมายังเครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลที่ใช้งานอยู่ ปัจจุบันมีหน่วยงานหลายแห่งที่กำหนดให้ Server ของตนทำหน้าที่เป็น FTP site เก็บรวบรวมข้อมูลและโปรแกรมต่าง ๆ สำหรับให้บริการ FTP ที่นิยมใช้กันมากได้แก่ WS_FTP, CuteFTP
4.การแลกเปลี่ยนข่าวสาร (USENET) การสื่อสารประเภทนี้มาที่มาจากกระดานประกาศข่าว หรือ Bulletin Board กล่าวคือ ผู้ที่มีความสนใจในเรื่องเดียวกัน จะรวมกลุ่มกันตั้งเป็นกลุ่มข่าวของแต่ละประเภท เมื่อมีข้อมูลใหม่ที่จะเป็นประโยชน์ต่อสมาชิกผู้อื่น หรือมีปัญหาหรือคำถามที่ต้องการความช่วยเหลือหรือคำตอบ ผู้นั้นก็จะส่งข้อมูลของตนเข้าไปติดประกาศไว้ในอินเตอร์เน็ต โดยเครื่องที่ทำหน้าที่ติดประกาศ คือ News Server เมื่อสมาชิกอื่นอ่านพบ ถ้ามีข้อมูลเพิ่มเติมหรือมีบางอย่างไม่ถูกต้อง หรือมีคำตอบที่จะช่วยแก้ปัญหาให้ได้ สมาชิกเหล่านั้นก็จะส่งข้อมูลตอบกลับไปติดประกาศไว้เช่นกัน
5. การเข้าใช้เครื่องระยะไกล (Telnet) Telnet เป็นการขอเข้าไปใช้เครื่องคอมพิวเตอร์เครื่องอื่น ที่เชื่อมต่อกับอินเตอร์เน็ตจากระยะไกล โดยผู้ใช้ไม่จำเป็นต้องไปนั่งอยู่หน้าเครื่อง เครื่องคอมพิวเตอร์ดังกล่าวนี้อาจอยู่ภายในสถานที่เดียวกับผู้ใช้ หรืออยู่ห่างกันคนละทวีปก็ได้ แต่ทั้งนี้ผู้ใช้ต้องมี account และรหัสผ่านจึงจะสามารถเข้าใช้เครื่องดังกล่าวได้ ส่วนคำสั่งในการทำงานนั้นขึ้นอยู่กับระบบปฏิบัติการของเครื่องที่เข้าไปขอใช้
6.การสนทนาผ่านเครือข่าย (Talk หรือ Chat) เป็นการติดต่อสื่อสารแบบ 2 ทาง คือสามารถสื่อสารโต้ตอบกันได้ทันทีเหมือนการใช้โทรศัพท์ ในการสนทนาผ่านเครือข่ายนี้สามารถทำได้ทั้งแบบ Text-based และ Voice-based โดยในระยะแรกจะจำกัดเฉพาะ Text-based คือใช้วิธีการพิมพ์เป็นข้อความในการสื่อสารโต้ตอบระหว่างกัน โปรแกรมที่นิยมใช้คือ Talk และ IRC (Internet Relay Chat) ต่อมาเมื่อมีการพัฒนามากขึ้นทั้งด้าน Hardware และ Software ทำให้ปัจจุบันเราสามารถสทาอสารกันทาง Voice-based ได้ด้วย โปรแกรมที่ใช้ในการสื่อสารประเภทนี้ เช่น NetMeeting ของไมโครซอฟต์ หรือ Inter Phone ของ Vocaltec ฯลฯ
เกร็ดความรู้เรื่อง การสื่อการบนอินเตอร์เน็ต
โปรโตคอลคืออะไร
ในการสื่อสารทางเครือข่ายคอมพิวเตอร์
จำต้องมีการสื่อสารข้อมูลระหว่างเครื่องคอมพิวเตอร์ในระบบ
ซึ่งเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ต่ออยู่ในเครือข่ายเดียวกันนี้
อาจจะมีฮาร์ดแวร์,ซอฟท์แวร์ที่แตกต่างกัน
ดังนั้นเมื่อทำการส่งข้อมูลถึงกันและตีความหมายได้ตรงกัน
จึงต้องมีการกำหนดระเบียบวิธีการติดต่อให้ตรงกัน โปรโตคอล ( Protocol )
คือระเบียบวิธีที่กำหนดขึ้นสำหรับการสื่อสารข้อมูล
โดยสามารถส่งผ่านข้อมูลไปยังปลายทางได้อย่างถูกต้อง
ซึ่งตัวโปรโตคอลที่นิยมใช้ในปัจจุบันคือ TCP/IP
นอกจากนี้ยังมีการออกแบบโปรโตคอลตัวอื่นๆขึ้นมาใช้งานอีก เช่น โปรโตคอล
IPX/SPX,โปรโตคอล NetBEUI และ โปรโตคอล Apple Talk
โปรโตคอล IPX/SPX
ถูกพัฒนาขึ้นโดยบริษัท Novell
ซึ่งทำการพัฒนามาจากตัวโปรโตคอล XNS ของบริษัท Xerox Corporation
ซึ่งโครงสร้างเมื่อทำการเปรียบเทียบ
กับ OSI Model ดังรูป
ตัวโปรโตคอล IPX/SPXแบ่งออกเป็น 2 โปรโตคอลหลักคือ
Internetwork Packet Exchange ( IPX) และ Sequenced Packet
Exchange (SPX) โดยโปรโตคอล IPX ทำหน้าที่ในระดับ network layer ตามาตรฐาน OSI
Model มีกลไกการส่งผ่านข้อมูลแบบ connectionless,unrerelibleหมายความว่า
เมื่อมีการส่งข้อมูล โดยไม่ต้องทำการสถาปนาการเชื่อมต่อกันระหว่าง host
กับเครื่องที่ติดต่อกันอย่างถาวร ( host ,
เครื่องเซิร์ฟเวอร์ที่ให้บริการใดๆในเครือข่าย )
และไม่ต้องการรอสัญญานยืนยันการรับข้อมูลจากปลายทาง
โดยตัวโปรโตคอลจะพยายามส่งข้อมูลนั้นไปยังปลายทางให้ดีที่สุด สำหรับโปรโตคอล SPX
ทำหน้าที่ในระดับ transport layer ตามมาตรฐาน OSI Model
โดยส่งผ่านข้อมูลตรงข้ามกับโปรโตคอล IPXคือ
ต้องมีการทำการสถาปนาการเชื่อมโยงกันก่อนและมีการส่งผ่านข้อมูลที่เชื่อถือได้
ด้วยการตรวจสอบสัญญาณยืนยันการรับส่งข้อมูลจากปลายทาง
โปรโตคอล NetBEUI
โปรโตคอล NetBEUI หรือ NetBIOS Enhanced User
Interface นั้น เป็นโปรโตคอลที่ไม่มี
ส่วนในการระบุเส้นทางส่งผ่านข้อมูล (Non-routable Protocol)โดยจะใช้วิธีการ
Broadcast ข้อมูลออกไปในเครือข่าย
และหากใครเป็นผู้รับที่ถูกต้องก็จะนำข้อมูลที่ได้รับไปประมวลผล
ข้อจำกัดของโปรโตคอลประเภทนี้ก็คือไม่สามารถทำการ Broadcast ข้อมูลข้ามไปยัง
Physical Segment อื่นๆที่ไม่ใช่ Segment เดียวกันได้
เป็นการแบ่งส่วนของเครือข่ายออกจากกันทางกายภาพ
หากต้องการเชื่อมต่อเครือข่ายถึงกันจะต้องใช้อุปกรณ์อย่างเช่น Router
มาทำหน้าที่เป็นตัวกลางระหว่างเครือข่าย
เนื่องมาจากอุปกรณ์บางอย่างเช่น Router ไม่สามารถจะ
Broadcast ข้อมูลต่อไปยังเครือข่ายอื่นๆได้ เพราะถ้าหากยอมให้ทำเช่นนั้นได้
จะทำให้การสื่อสารระหว่างเครือข่ายคับคั่งไปด้วยข้อมูลที่เกิดจากการ Broadcast
จนเครือข่ายต่างๆไม่สามารถที่จะสื่อสารกันต่อไปได้ โปรโตคอล NetBEUI
จึงเหมาะที่จะใช้งานบนเครือข่ายขนาดเล็กที่มีจำนวนเครื่องคอมพิวเตอร์ไม่เกิน 50
เครื่องเท่านั้น NetBEUI เป็นหนึ่งในสองทางเลือกสำหรับผู้ใช้งาน NetBIOS ( Network
Basic Input Output System ) ซึ่งสามารถทำงานได้ทั้งบนโปรโตคอล TCP/IP และ
NetBUEI
โปรโตคอล AppleTalk
จุดเริ่มต้นของโปรโตคอล AppleTalk
เกิดขึ้นในปีค.ศ.1983 ซึ่งเป็นช่วงที่บริษัท Apple Computer
ต้องการออกแบบชุดโปรโตคอลสื่อสารข้อมูลของตนเองขึ้น
เพื่อใช้เชื่อมโยงเครือข่ายของเครื่องแบบแมคอินทอช และสามารแชร์กับอุปกรณ์ต่างๆ
นอกจากนี้ยังขยายไปสู่การเชื่อมโยงเป็นเครือข่ายของเซิร์ฟเวอร์,เครื่องพิมพ์,
Gateway และ Router
ของผู้ผลิตรายอื่นๆด้วยต่อจากนั้นเครื่องแมคอินทอชและอุปกรณ์ต่างๆที่บริษัทผลิตออกมาก็ได้มีการเพิ่มส่วนของฮาร์ดแวร์และซอฟท์แวร์ให้สามารถรองรับโปรโตคอลตัวนี้ได้
รวมถึงระบบปฏิบัติการ MacOS
รุ่นใหม่ๆก็ได้มีการผนวกฟังก์ชั่นให้รองรับโปรโตคอลตัวนี้ได้เช่นกัน
ทำให้กลุ่มผู้ใช้เครื่องแมคอินทอชสามารถเชื่อมโยงกันเป็นเครือข่ายได้ง่ายโดยไม่ต้องไปหาซื้อ
อุปกรณ์เพิ่มเติมอีก
โปรโตคอล Apple Talk
ถูกออกแบบมาให้ทำงานเป็นเครือข่ายในแบบ peer-to-peer
ซึ่งถือว่าเครื่องทั้งหมดที่เชื่อมต่ออยู่ในเครือข่ายสามารถเป็นเซิร์ฟเวอร์ได้ทุกเครื่องโดยไมต้องจัดให้บางเครื่องทำหน้าที่เป็นเซิร์ฟเวอร์ที่ให้บริการโดยเฉพาะขึ้นมา
ต่อมาปีค.ศ. 1989 ได้มีการพัฒนาโปรโตคอล AppleTalk
ให้สนับสนุนเครือข่ายที่ใหญ่มากขึ้นได้
สามารถมีเครื่องลูกข่ายและอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อในเครือข่ายได้มากกว่าเดิมเรียกว่าเป็นโปรโตคอล
Apple Talk Phase 2
นอกจากนี้ยังเพิ่มโปรโตคอลที่ทำให้สามารถเชื่อมต่อกับเครือข่ายแบบ Ethernet และ
Token Ring ได้ โดยเรียกว่า EtherTalk และ TokenTalk ตามลำดับ
โปรโตคอลTCP/IP ( RFC1180 )
โปรโตคอล TCP/IP
เป็นชื่อเรียกของชุดโปรโตคอลที่สำคัญ
มีการใช้งานกันอย่างแพร่หลายตามการขยายตัวของอินเทอร์เนท/อินทราเนท
ความจริงแล้วโปรโตคอล TCP/IP เป็นกลุ่มของโปรโตคอล
หลายตัวที่ประกอบกันเป็นชุดให้ใช้งานโดยมีคำเต็มว่าTransmission Control Protocol /Internet Protocol
ซึ่งจะเห็นได้ว่ามีโปรโตคอลประกอบกันทำงาน 2 ตัว คือ TCP และ
IP
ตัวอย่างของกลุ่มโปรโตคอลในชุดของ TCP/IP
ที่เราพบและใช้งานบ่อยๆ ( ส่วนใหญ่จะไม่ได้ใช้งานโดยตรง
แต่จะใช้งานผ่านแอพพลิเคชั่นต่างๆหรือทำงานโดยอ้อม เช่น Internet Protocol,Address
Resolution Protocol(ARP) ,Internet Control Message Protocol (ICMP) ,User
Datagram Protocol (UDP) ,Transprot Control Protocol (TCP) และ Simple Mail
Transfer Protocol (SMTP)
โปรโตคอลที่มีบทบาทสำคัญในการทำงานในเครือข่ายอินเทอร์เนทคือ Internet
Protocol (โปรโตคอล IP)
เนื่องจากเมื่อโปรโตคอลอื่นๆต้องการส่งผ่านข้อมูลข้ามเครือข่ายในอินเทอร์เนทนั้น
จะต้องอาศัยการผนึกข้อมูล ไปกับโปรโตคอล IP ที่มีกลไกการระบุเส้นทาง ผ่าน Gateway
หรือ
Router
เพื่อนำข้อมูลไปยังเครือข่ายและเครื่องปลายทางที่ถูกต้อง
เนื่องจากกลไกการระบุเส้นทางจะทำงานที่โปรโตคอล IP
เท่านั้นและด้วยเหตุนี้เราจึงเรียก
ว่าเป็นโปรโตคอลที่มีความสามารถในการระบุเส้นทางการส่งผ่านของข้อมูลได้(Routable)
การที่เครื่องคอมพิวเตอร์จะสามารถสื่อสารกันได้จำต้องมีการระบุแอดเดรสที่ไม่ซ้ำกัน
เพราะไม่เช่นนั้นข้อมูลที่ส่งอาจจะไม่ถึงปลายทางได้ ซึ่งแอดเดรสจะมีข้อกำหนดมาตรฐาน
ซึ่งในการใช้งานโปรโตคอล TCP/IP ที่เชื่อมโยงเครือข่ายนี้ จะเรียกว่า IP Address (
Internet Protocol Address )